ฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน vs บานเปิด: แบบไหนเหมาะกับห้องน้ำของคุณ?

เปรียบเทียบฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อนและบานเปิด เลือกแบบไหนดี?

ห้องน้ำหรูพร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกใส

การจัดโซนในห้องน้ำให้ลงตัวโดยแยกโซนแห้งกับโซนเปียกเป็นอีกหนึ่งการออกแบบที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากๆ เพราะช่วยให้เราทำกิจวัตรประจำวันได้สะดวกขึ้น แถมห้องน้ำยังดูสะอาดและเรียบร้อย ซึ่งฉากกั้นอาบน้ำก็คือไอเทมหลักที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้แบบอยู่หมัด แต่พอถึงเวลาต้องเลือกจริงๆ หลายคนก็มักลังเลว่าระหว่างฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนกับแบบบานเปิด แบบไหนที่เหมาะกับห้องน้ำของเราที่สุด? แบบไหนใช้พื้นที่คุ้มกว่า? ดูแลต่างกันแค่ไหน? แล้วถ้าอยู่คอนโด ห้องแคบ จะเลือกยังไงดี?

บทความนี้เราจึงจะพาไปดูข้อดี-ข้อเสียของฉากกั้นอาบน้ำทั้งสองแบบ พร้อมเทียบกันชัดๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ง่ายขึ้นและตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และพื้นที่ใช้งานจริง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

 

ทำไมต้องมีฉากกั้นอาบน้ำ

ถ้าคุณเคยอาบน้ำในห้องน้ำที่ไม่มีฉากกั้นเลย แล้วเกิดปัญหาน้ำกระเด็นไปทั่วห้องน้ำ เปียกยันกระจก อ่างล้างหน้า และผ้าเช็ดตัว ก็คงพอเข้าใจว่าทำไมการแยกโซนเปียกกับโซนแห้งถึงควรมีเส้นแบ่งที่ชัดเจน

“ฉากกั้นอาบน้ำ” คือสิ่งที่ช่วยจัดระเบียบพื้นที่ในห้องน้ำให้ดูเรียบร้อยขึ้นแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องรีโนเวทใหม่ มันช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปทั่ว ทำให้พื้นแห้งอยู่เสมอ ลดโอกาสในการลื่นล้ม และยังช่วยให้ห้องน้ำดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วย

 

รู้จักฉากกั้นอาบน้ำแต่ละประเภท

  • ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน
    ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะในห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด เพราะประตูจะเลื่อนซ้อนเข้าไปด้านข้าง ไม่กินพื้นที่เปิด-ปิดด้านนอก จึงเหมาะกับคอนโดหรือห้องน้ำที่ต้องใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้ม

    การใช้งานก็ถือว่าง่าย ลื่นไหล เปิด-ปิดไม่เปียกพื้นข้างนอก แถมยังมีหลายดีไซน์ให้เลือก ตั้งแต่กรอบอะลูมิเนียมแบบบางไปจนถึงกระจกนิรภัยแบบใสที่ช่วยให้ห้องน้ำดูโปร่งและไม่อึดอัด ที่สำคัญคือดูแลไม่ยาก แค่หมั่นทำความสะอาดรางเลื่อนบ้างก็โอเคแล้ว

  • ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิด
    อีกหนึ่งตัวเลือกที่ยังครองใจหลายคนก็คือฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิด เพราะดีไซน์คลาสสิกและเรียบง่าย ใครที่มีพื้นที่ห้องน้ำมากหน่อยหรืออยากได้ประตูที่เปิดกว้าง เดินเข้า-ออกสะดวก โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ บานเปิดอาจตอบโจทย์มากกว่า 

    ข้อดีอีกอย่างคือเรื่องการดูแล เพราะไม่มีรางด้านล่างมาให้ต้องขูดตะไคร่ออกบ่อยๆ ทำให้หลายคนรู้สึกว่าดูแลง่ายกว่า ส่วนเรื่องความสวยก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีให้เลือกทั้งแบบกรอบเรียบหรูไปจนถึงกระจกเปลือยแนวมินิมอลที่หลายคนชื่นชอบเลย

 

เปรียบเทียบทุกจุดฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน vs บานเปิด ต่างกันยังไง?

หลายคนอาจไม่ได้ติดที่ดีไซน์ แต่ติดที่ฟังก์ชันและความเหมาะสมกับพื้นที่ในห้องน้ำที่ใช้อยู่ทุกวัน เพราะฉะนั้นเราจะไม่พูดแค่เรื่องความสวยงาม แต่จะชวนมาเปรียบเทียบกันแบบทุกจุดเลยว่าระหว่างฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อนกับบานเปิด แบบไหนตอบโจทย์ในแต่ละด้านได้มากกว่ากัน

  • ขนาดและพื้นที่ห้องน้ำ
    ห้องน้ำที่มีขนาดเล็กและแคบต้องคิดเยอะเป็นพิเศษเพราะพื้นที่จำกัดคือปัจจัยสำคัญ ซึ่งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนจะได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องเผื่อพื้นที่ให้ประตูเปิด-ปิด เพราะประตูจะเลื่อนซ้อนอยู่ในรางจึงประหยัดพื้นที่ได้มาก เหมาะกับห้องน้ำในคอนโดหรือห้องที่ต้องการใช้พื้นที่ทุกมุมให้คุ้มที่สุด

  • ความสะดวกในการใช้งานและดูแล
    ฉากกั้นอาบน้ำบานเปิดมีข้อดีตรงที่ใช้งานได้ถนัดมือมากกว่า ที่สำคัญคือไม่มีรางด้านล่างให้ต้องมานั่งขัดคราบน้ำหรือตะไคร่บ่อยๆ ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนชอบเพราะดูแลง่ายในระยะยาว ส่วนบานเลื่อนอาจต้องดูแลเรื่องรางเลื่อนและล้อบานเลื่อนบ้างเป็นระยะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำกระเด็นถึงได้ง่ายหรือมีความชื้นสูง แต่ข้อดีคือเปิด-ปิดง่าย ไม่ต้องเผื่อพื้นที่เดินเข้า-ออกหรือกลัวว่าจะไปกระแทกกับอุปกรณ์สุขภัณฑ์ที่อยู่ใกล้ๆ

  • ดีไซน์ที่ลงตัว
    ฉากกั้นอาบน้ำทั้งสองแบบมีดีไซน์ที่แตกต่างและสามารถเลือกให้เข้ากับห้องน้ำแต่ละแบบได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างเช่น ฉากกั้นอาบน้ำบานเปิดจะมีความเรียบหรู คลีนๆ หรือถ้าเป็นกระจกเปลือยก็จะให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง เหมาะกับห้องน้ำที่อยากได้ความพรีเมียม ความหรูหรา

    ส่วนแบบบานเลื่อนก็ไม่ได้ดูด้อยกว่า เพราะปัจจุบันมีดีไซน์แบบกรอบบาง กรอบดำสไตล์ลอฟต์ หรือแบบซ่อนรางที่ดูทันสมัยไม่แพ้กัน เรียกว่าปรับให้เข้ากับ mood & tone ได้ตามใจเลย

  • เรื่องของความปลอดภัย
    ในบ้านที่มีผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือใครที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ เรื่องการเลือกฉากกั้นอาบน้ำยิ่งไม่ควรมองข้ามเลย ซึ่งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิดจะเปิดได้กว้างกว่า ทำให้เดินเข้า-ออกง่าย ไม่ต้องก้าวข้ามรางประตู ส่วนแบบบานเลื่อนแม้จะปลอดภัยในแง่ที่ไม่ต้องเผื่อพื้นที่ในการเปิดประตู แต่ก็อาจมีรางที่ต้องก้าวข้ามนิดหน่อย และควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง เช่น กระจกนิรภัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจเวลาใช้งาน

 

คำแนะนำจากช่างติดตั้ง ฉากกั้นอาบน้ำแบบไหนติดตั้งง่ายกว่า?

  • ฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน : ติดตั้งง่ายแต่ต้องคาลิเบรทละเอียด
    ช่างจาก SN Temper Glass แนะนำว่าฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนติดตั้งค่อนข้างง่าย แต่มีขั้นตอนสำคัญคือการติดตั้งรางที่ต้องแนวตรง รับน้ำหนักกระจกนิรภัยขนาด 6-10 มม. ได้ดี นอกจากนี้ยังต้องติดตั้งลูกล้อที่มีความมัน ลื่น ไม่ติดขัด ช่วยให้เปิด-ปิดได้ง่าย เสียงเบา ไม่กระแทก ช่างจึงแนะนำให้ใช้อุปกรณ์เฟรมและลูกล้อคุณภาพสูง เช่น แบบที่ผ่านการทดสอบทนแรงดึงพร้อมมือจับแบบพอดี ใช้ถนัดมือ

  • ฉากกั้นอาบน้ำบานเปิด : ติดตั้งง่ายแต่ต้องแข็งแรง
    ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิดจะใช้โครงบานและอุปกรณ์เฟรมนิดหน่อย ไม่ต้องติดตั้งรางด้านล่างจึงประหยัดเวลา แต่อุปกรณ์เฟรมบนล่างต้องออกแบบให้รับน้ำหนักกระจกนิรภัยได้ดี โดยเฉพาะถ้าวางแนวนอกเฟรมหรือแบบไร้กรอบ (frameless) ต้องเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพ เช่น Top/Bottom Patch และโช้คฝังพื้น ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 100 กก. ช่างจะเน้นว่าถ้าติดตั้งเจาะผนังดีๆ ก็ใช้งานได้มั่นคงและเรียบร้อย

การเลือกฉากกั้นอาบน้ำให้เหมาะกับห้องน้ำแต่ละแบบก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้งานจริงรวมถึงความชอบส่วนบุคคลด้วย แต่จุดที่สำคัญกว่านั้นคือการเลือกวัสดุและอุปกรณ์คุณภาพดี พร้อมช่างติดตั้งที่ไว้ใจได้ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานห้องน้ำที่ออกแบบมาอย่างเป็นสัดเป็นส่วนได้ทุกวันแล้ว

 

ถ้าคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระจกสำหรับทำฉากกั้นอาบน้ำโดยเฉพาะ SN Temper Glass คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ที่นี่รับผลิตและติดตั้งกระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) กระจกลามิเนต กระจกนิรภัย และงานเฟรมอะลูมิเนียมครบวงจร โดยใช้กระจกเกรด A ที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ช่วยให้คุณมั่นใจเรื่องความแข็งแรง ความปลอดภัย และงานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างแน่นอน


ออกแบบห้องน้ำให้น่าใช้งาน ด้วยฉากกั้นอาบน้ำที่เหมาะกับคุณ สนใจติดต่อที่ SN Temper Glass

Hot Line : 081-697 9542, 097-2743058,095-5796043, 02-8973646-7, 02-6973646-7
LINE Official : @777htzdz
Facebook : Sn Temper Glass
E-Mail: sn.temper.glass@hotmail.com