แนวทางการเลือกกระจกลามิเนตให้เหมาะกับงานตกแต่งภายใน

กระจกลามิเนตสำหรับการออกแบบและตกแต่งภายในยุคใหม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างมิติ เพิ่มความหรูหรา และตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Laminated Glass ซึ่งเป็นวัสดุที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นและหลากหลาย สิ่งสำคัญของการเลือกใช้งานให้เหมาะสม จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียงเรื่องความหนา รูปลักษณ์หรือความสวยงาม แต่รวมถึงความปลอดภัย ความแข็งแรงโครงสร้าง คุณสมบัติด้านเสียง ความเป็นส่วนตัว การป้องกันความชื้นและรายละเอียดการติดตั้งและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนั้นการเข้าใจประเภทของกระจกและชั้นคั่น (Interlayer) ตลอดจนการกำหนดสเปกที่เหมาะสมกับหน้าที่ของชิ้นงานด้วย จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ทั้งสวยงาม ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งยังช่วยให้การออกแบบและติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและได้คุณภาพสูงสุด

ทำความรู้จักกับ กระจกลามิเนต : โครงสร้างและคุณสมบัติเด่น

ก่อนจะเริ่มการเลือกใช้งาน สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่ากระจกประเภทนี้คืออะไร?  กระจก Laminated คือการนำกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบกัน โดยมีแผ่นฟิล์มโพลีไวนิลบิวทิรัล (PVB) หรือฟิล์ม EVA (Ethylene-vinyl acetate) เป็นตัวประสานอยู่ตรงกลาง โดยฟิล์มนี้ทำหน้าที่เป็นกาวที่ยึดกระจกทั้งสองแผ่นไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา ภายใต้ความร้อนและแรงดันสูง ทำให้เกิดคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ดังนี้

• ความปลอดภัยสูงสุด: นี่คือคุณสมบัติหลักที่ทำให้กระจกลามิเนตเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง เมื่อกระจกแตก เศษกระจกจะยังคงติดอยู่กับแผ่นฟิล์ม PVB/EVA ไม่หลุดร่วงกระจายออกไป จึงช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  
  
• การลดเสียงรบกวน: ฟิล์มที่อยู่ตรงกลางมีคุณสมบัติในการช่วยลดทอนการสั่นสะเทือนของเสียง ทำให้กระจก Laminated เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ห้องประชุม ห้องนอนหรือห้องสมุด
  
  
• การป้องกันรังสียูวี: ฟิล์ม PVB สามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ได้ถึง 99% ซึ่งช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์ พรมและของตกแต่งภายในไม่ให้ซีดจางจากแสงแดด
  
  
• ความยืดหยุ่นในการออกแบบ : กระจกลามิเนตสามารถนำไปผสมผสานกับกระจกชนิดอื่นได้หลากหลาย เช่น กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) หรือกระจกฮีทสเตรงเธน (Heat-strengthened Glass) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หรือสามารถใช้ฟิล์มที่มีสีสัน ลวดลาย หรือแม้กระทั่งฟิล์มผ้าเพื่อสร้างสรรค์ดีไซน์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ได้

ข้อดี-ข้อจำกัดของ กระจกลามิเนตเมื่อเทียบกระจกชนิดอื่น

การเลือกประเภทกระจกลามิเนตให้เหมาะสมกับงาน สามารถแบ่งได้ 2 ปัจจัย

1. การเลือกจากประเภทกระจกที่นำมาประกบ
   
   
   • กระจกลามิเนตใส: เป็นชนิดที่นิยมใช้มากที่สุด มีคุณสมบัติโปร่งใส ให้ความรู้สึกโล่งกว้าง เหมาะสำหรับใช้เป็นฉากกั้นห้อง ประตูกระจกหรือราวกันตก
     
     
   • กระจกลามิเนตสีชา/สีเขียว: เกิดจากการนำกระจกสีชาหรือสีเขียวมาประกบกัน ช่วยลดความจ้าของแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย เหมาะสำหรับใช้เป็นหน้าต่างหรือฉากกั้นในบางพื้นที่
     
     
   • กระจกนิรภัยเทมเปอร์ลามิเนต: เป็นการนำกระจกเทมเปอร์ซึ่งมีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาถึง 4-5 เท่า มาทำเป็นกระจกลามิเนตทำให้ได้กระจกที่แข็งแกร่งและปลอดภัยสูงสุด เมื่อแตกจะยังคงยึดติดอยู่กับฟิล์ม เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บันได ราวกันตกหรือพื้นกระจก
     
     
   • กระจกนิรภัยฮีทสเตรงเธนลามิเนต: มีความแข็งแรงน้อยกว่ากระจกเทมเปอร์ แต่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดีกว่า เมื่อแตกจะมีลักษณะคล้ายกับกระจกธรรมดาแต่ยังคงติดอยู่กับฟิล์ม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงปานกลางและต้องการลดการบิดเบี้ยวของภาพ
     
     
   • กระจกฝ้าลามิเนต: ใช้กระจกฝ้ามาประกบ ทำให้ได้กระจกที่มองเห็นไม่ชัดเจน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับใช้ในห้องน้ำ ฉากกั้นในสำนักงาน หรือพื้นที่ที่ต้องการแบ่งสัดส่วนแต่ยังคงให้แสงส่องผ่านได้
     
     
2. การเลือกจากชนิดของฟิล์มที่ใช้กับกระจกลามิเนต
   
   
   • ฟิล์ม PVB (Polyvinyl Butyral): เป็นฟิล์มมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีคุณสมบัติในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับงานทั่วไปทั้งภายในและภายนอก
     
     
   • ฟิล์ม EVA (Ethylene-vinyl acetate): เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ฟิล์ม EVA มีคุณสมบัติเด่นคือทนความชื้นได้ดีกว่า ทำให้เหมาะสำหรับงานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องซาวน่า
     
     
   • ฟิล์มตกแต่งพิเศษ (Decorative Film): เป็นฟิล์มที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับกระจก มีทั้งฟิล์มสี ฟิล์มลายผ้าหรือฟิล์มดิจิตอลปริ้นท์ ทำให้สามารถสร้างสรรค์ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ได้ตามต้องการ

การประยุกต์ใช้งาน กระจกลามิเนตในงานออกแบบภายในแต่ละพื้นที่

• ฉากกั้นห้อง (Partition): แนะนำการใช้กระจก Laminated แบบใสหรือกระจกฝ้าลามิเนต เพราะช่วยแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด สามารถเลือกใช้กระจกฝ้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในสำนักงานหรือห้องประชุมได้
  
  
• ราวกันตกและบันไดกระจก: แนะนำการใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ลามิเนต (Tempered Laminated Glass) เพราะราวกันตกหรือบันไดนั้นถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ การใช้กระจกเทมเปอร์ลามิเนตจะช่วยให้มั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรงและความปลอดภัยสูงสุด เมื่อเกิดการกระแทก กระจกจะไม่ร่วงลงมาเป็นชิ้นๆ
  
  
• ประตูและหน้าต่าง: แนะนำการใช้กระจกลามิเนตแบบใส/สีชาหรือสีเขียว กระจกประเภทนี้ให้ความปลอดภัยสูง ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกและยังสามารถป้องกันรังสียูวีได้
  
  
• พื้นกระจก (Glass Flooring): แนะนำการใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ลามิเนตความหนาพิเศษ (ใช้กระจกเทมเปอร์ 3 แผ่นประกบกัน) เพราะพื้นกระจกเป็นโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักสูง จึงจำเป็นต้องใช้กระจกที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ และต้องมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดหากเกิดการแตก
  
  
• ผนังกระจกภายใน (Glass Wall): แนะนำการใช้กระจกลามิเนตแบบใสหรือLaminated Glass ที่ใช้ฟิล์มตกแต่งพิเศษ จะช่วยสร้างจุดเด่นให้กับพื้นที่ ซึ่งสามารถใช้ฟิล์มสี ฟิล์มผ้าหรือลวดลายต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะบนผนังได้อย่างอิสระ
  
  
• ท็อปเคาน์เตอร์และชั้นวางของ: แนะนำการใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ลามิเนต เพื่อความทนทานต่อการใช้งานและความปลอดภัยจากการแตกร้าว

ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ในการตัดสินใจเลือก กระจกลามิเนต

• ความหนาของกระจก: ความหนาของกระจก Laminated มีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและความสามารถในการป้องกันเสียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อคำนวณความหนาที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่
  
  
• การติดตั้ง: การติดตั้งกระจก Laminated ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญการ เพื่อให้มั่นใจว่ากระจกจะถูกติดตั้งอย่างถูกต้องและปลอดภัย ไม่เกิดการบิดเบี้ยวหรือเสียหาย
  
  
• งบประมาณ: แม้กระจกลามิเนตจะมีราคาสูงกว่ากระจกธรรมดา แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ความทนทานและความยืดหยุ่นในการออกแบบ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

การเลือกกระจก Laminated สำหรับงานตกแต่งภายในไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากมีความเข้าใจที่ถูกต้องและครอบคลุม การพิจารณาจากประเภทของกระจกที่นำมาประกบ ชนิดของฟิล์มและลักษณะการใช้งานในแต่ละพื้นที่ จะช่วยให้คุณได้กระจกที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความสวยงาม ความปลอดภัยและฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างลงตัวที่สุด การลงทุนกับกระจกลามิเนตที่มีคุณภาพคือการลงทุนเพื่อความปลอดภัย และความสวยงามที่ยั่งยืนให้กับบ้านหรืออาคารของคุณในระยะยาว

SN Temper Glass เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์งานกระจกนิรภัยที่มีทั้งความสวยงามและความปลอดภัย ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี เราเชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิต และติดตั้งกระจก temper และกระจกลามิเนตคุณภาพสูงสำหรับทั้งที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์และสำนักงาน ที่ผ่านมาตรฐาน มอก. พร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ให้คุณมั่นใจได้ในความแข็งแรง ทนทานและปลอดภัยสูงสุด

สนใจข้อมูลหรืออยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อทีมงานได้ทันที

Hot Line : 081-697 9542, 097-2743058,095-5796043, 02-8973646-7, 02-6973646-7
LINE Official : @777htzdz
Facebook : Sn Temper Glass
E-Mail: sn.temper.glass@hotmail.com