ความแตกต่างของกระจกเทมเปอร์และกระจกลามิเนตที่ควรรู้

กระจกเทมเปอร์และกระจกลามิเนต เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ความแตกต่างของกระจกเทมเปอร์และกระจกลามิเนตที่ควรรู้

กระจกนิรภัยอย่าง กระจกเทมเปอร์ และ กระจกลามิเนต ภายนอกอาจดูคล้ายกัน แต่คุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกใช้ผิดประเภทอาจนำมาซึ่งปัญหาด้านความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกนิรภัย และผู้จำหน่ายโดยตรง เราจะพาคุณมาเจาะลึกความแตกต่างของกระจกเทมเปอร์และกระจกลามิเนต เพื่อให้คุณมั่นใจว่าได้เลือกกระจกนิรภัยที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดในการใช้งาน (เช่น ฉากกั้นอาบน้ำ, ประตู, หน้าต่าง) ก่อนตัดสินใจซื้อจริง

กระจกเทมเปอร์ vs กระจกลามิเนต ต่างกันยังไง?

  1. กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) เป็นกระจกนิรภัยที่ผ่านกระบวนการอบความร้อนสูง ประมาณ 620 - 650 องศาเซลเซียส และถูกทำให้เย็นอย่างรวดเร็วด้วยการเป่าลมเย็น กระบวนการนี้ทำให้โครงสร้างโมเลกุลของกระจกเปลี่ยนแปลง โดยข้อดีของกระจกเทมเปอร์คือ ทนต่อความร้อนและความชื้น มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกมากกว่ากระจกธรรมดาถึง 5 เท่า แถมยังมีค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้หักงอ (Bending Strength) หากกระจกเทมเปอร์แตกจะแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายเม็ดข้าวโพด ทำให้ไม่บาดมือ นอกจากนั้นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกระจกธรรมดากับกระจกเทมเปอร์ที่ความหนา 5 มม. กระจกธรรมดาจะมีค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้กระจกหักงออยู่ที่ 500- 600 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ส่วนกระจกนิรภัยเทมเปอร์มีค่าสูงถึง 1,500 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ทำให้เห็นว่ากระจกเทมเปอร์ทนต่อการหักงอได้มากกว่า 3 เท่า

    คุณสมบัติ ทนความร้อน กระจกเทมเปอร์สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 290 องศาเซลเซียส และทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ถึง 150 องศาเซลเซียส แต่กระจกเทมเปอร์ไม่ใช่กระจกทนไฟที่ผลิตมาเพื่อทนไฟจึงไม่สามารถใช้เป็นช่องส่องมองในเตาที่มีความร้อนสูงกว่า 290 เซลเซียสได้ และสามารถผลิตได้หลากหลายขนาด จึงสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานได้

    กระจกเทมเปอร์มักนิยมนำไปใช้งานร่วมกับสิ่งของต่าง ๆ เช่น กระจกเทมเปอร์สำหรับโคมไฟสปอตไลต์ ใช้กั้นบริเวณใกล้เตาไฟ ใช้เป็นฐานของเตาแก๊ส ใช้รองหม้อร้อน ทำเป็นประตูบานเปลือย ฉากกั้นอาบน้ำ ผนังกั้นภายใน ตู้โทรศัพท์ ตู้โชว์สินค้าที่ต้องการความโปร่งแสงแต่ทนต่อแรงกระแทก หรือใช้ทำเป็น โต๊ะกระจก ตู้ปลา หรือแม้แต่งานที่มีความเสี่ยงต่อการแตกร้าวและงานที่ต้องการความปลอดภัย เช่น ใช้กระจกเทมเปอร์ทำเป็นผนังกั้นระหว่างผู้ชมกับสนามแข่งกีฬา เช่น สนามบาสเกตบอล สนามฮอกกี้น้ำแข็ง ลานสเก็ตน้ำแข็ง เป็นต้น หรือบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมาเยอะ ๆ และมีโอกาสเกิดการกระแทกกระจก กฎหมายจึงกำหนดให้ใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ด้วยในการสร้าง เช่น ศูนย์การค้า ธนาคาร โชว์รูมรถ เป็นต้น

    ดูรายละเอียด หมวดสินค้า กระจกเทมเปอร์

  2. กระจกลามิเนต (Laminated Glass) เป็นกระจกนิรภัยหลายชั้นที่เกิดจากการนำกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบกันโดยมีแผ่นฟิล์มนิรภัย PVB (Poly Vinyl Butyral) ที่ผ่านกระบวนการอัดความร้อนและความดัน โดยแผ่นฟิล์มนิรภัยจะอยู่ขั้นกลางระหว่างกระจก 2 แผ่น เพื่อยึดกระจกไว้ให้มีความแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบการแตกของกระจก ถ้าเป็นกระจกเทมเปอร์เมื่อกระจกแตกจะเป็นลักษณะเหมือนเมล็ดข้าวโพด แต่สำหรับกระจกลามิเนตนั้นถ้าแตกจะยังคงรูปเป็นแผ่นดังเดิม เพราะแผ่นฟิล์มที่ติดไว้จะเป็นตัวยึดเกาะไม่ให้เศษกระจกหลุดร่วงลงมาทำให้เกิดอันตราย

    กระจกลามิเนตมีราคาถูกเพราะกระจกทุกชนิดสามารถนำมาผลิตเป็นกระจกลามิเนตได้ ไม่ว่ากระจกนั้นจะผลิตด้วยกระบวนการผลิตกระจกแบบใด ก็สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระจกลามิเนตได้ โดยข้อดีของกระจกลามิเนตคือมีความปลอดภัยสูง ทนทานต่อแรงกระแทกมากกว่ากระจกธรรมดา ป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ช่วยลดปัญหาสีซีดจาง

    นอกจากนั้นกระจกลามิเนตช่วยลดเสียงรบกวนมากกว่ากระจกแผ่นเดียวที่ความหนาเดียวกันได้ดี มีดีไซน์หลากหลาย สามารถเลือกสีและลวดลายของแผ่นฟิล์มได้ กระจกลามิเนตชะลอการส่งผ่านความร้อนเข้ามาในห้อง เพราะฟิล์ม PVB จะช่วยดูดซับความร้อนไว้ในเนื้อฟิล์ม กระจกลามิเนตเหมาะสมกับงานตกแต่งทั้งภายในภายนอก เช่น ฝ้า พื้น ผนังห้อง ผนังม่านแก้ว และบานประตู รวมไปถึงการทำตู้ปลาขนาดใหญ่ ใช้ตกแต่งภายนอก ป้องกันการโจรกรรมและช่วยในเรื่องของการเก็บเสียง ใช้ทำราวกันตก และหน้าต่าง ใช้เป็นกระจกตกแต่งอาคารสูง ใช้ทำกระจกรถยนต์ หรือกระจกสำหรับเรือ ใช้ทำเป็นโต๊ะประชุม หรือโต๊ะรับแขก เป็นต้น

 

กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) เด่นเรื่องความแข็งแรง ทนความร้อน และทนแรงกระแทก เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น ฉากกั้นอาบน้ำ บานประตู ผนังกั้นภายใน หรือพื้นที่ที่มีโอกาสกระแทกสูง 

กระจกลามิเนต (Laminated Glass) เด่นด้านความปลอดภัยเพราะมีฟิล์ม PVB ยึดเศษกระจกไว้ไม่ให้ร่วงเมื่อแตก ช่วยลดเสียงรบกวน กรองรังสี UV และเหมาะกับงานอาคารสูง ราวกันตก หรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบและความปลอดภัยเป็นพิเศษ 

หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือก กระจกเทมเปอร์หรือกระจกลามิเนต ให้เหมาะสมกับโครงการ เช่น ผนังม่านแก้ว ราวกันตก หรือฉากกั้นอาบน้ำ ทีมงาน SN Temper Glass ผู้เชี่ยวชาญงานกระจกนิรภัยมากว่า 25 ปี พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และประเมินความเหมาะสมของกระจกให้ตรงกับมาตรฐานและความปลอดภัยจริง  

คำถามที่พบบ่อย 

Q: กระจกเทมเปอร์แข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาแค่ไหน?
A: แข็งแรงกว่ากระจกใสทั่วไปประมาณ 4–5 เท่า และทนต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันได้ดีกว่า เหมาะกับงานที่เสี่ยงต่อแรงกระแทก 

Q: กระจกลามิเนตกันเสียงได้จริงหรือไม่?
A: ได้จริง เพราะฟิล์ม PVB ที่ประกบอยู่ระหว่างแผ่นกระจกช่วยลดการส่งผ่านเสียง เหมาะกับงานอาคารสูง ห้องประชุม หรือบ้านที่ต้องการความเงียบ 

Q: ถ้ากระจกเทมเปอร์แตก จะอันตรายหรือไม่?
A: กระจกเทมเปอร์จะแตกเป็นชิ้นเล็กคล้ายเม็ดข้าวโพด ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเมื่อเทียบกับกระจกธรรมดา 

Q: ราวกันตกควรใช้กระจกเทมเปอร์หรือกระจกลามิเนต?
A: ราวกันตกควรใช้กระจกลามิเนต เพราะแม้จะแตก เศษกระจกยังติดกับฟิล์ม PVB ไม่ร่วงลงมา ปลอดภัยกว่ากระจกเทมเปอร์ที่แตกแล้วหล่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เหมาะกับงานระเบียงและอาคารสูงที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด 

การตัดสินใจเลือกใช้กระจกควรมาจากความเข้าใจในคุณสมบัติและรูปแบบการใช้งานอย่างแท้จริง หากคุณต้องการกระจกนิรภัยคุณภาพ เกรด A มาตรฐานสากล พร้อมบริการแปรรูปครบวงจร เช่น อบเทมเปอร์ ประกบลามิเนต เจียรปรี เจาะ หรือพ่นทราย SN Temper Glass พร้อมดูแลทุกขั้นตอน เพื่อให้โครงการของคุณได้ทั้งความปลอดภัย ความสวยงาม และความคุ้มค่า

 

 

สนใจสั่งซื้อหรือติดต่อสอบถามกระจกเทปเปอร์และกระจกลามิเนตได้ที่

Hot Line : 081-697 9542, 097-2743058,095-5796043, 02-8973646-7, 02-6973646-7
LINE Official : @777htzdz
Facebook : Sn Temper Glass
E-Mail: sn.temper.glass@hotmail.com